ยินดีต้อนรับสู่เว็บของเด็กหญิง มารียา อักษรสวัสดิ์ เลขที่ 39 ร.ร. พิมานพิทยาสรรค์

ยินดีต้อนรับสู่เว็บของเด็กหญิง มารียา อักษรสวัสดิ์ เลขที่ 39 ร.ร. พิมานพิทยาสรรค์

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558

ประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ 




ตำนานเก่าแก่แห่งเมืองมนต์ขลังเล่าว่า  อดีตกาล  พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาถึงดอยโกสิยธชัคคะบรรพตและได้มอบพระเกศาธาตุให้ขุนลั๊วอ้ายก้อมไปบรรจุในผอบแก้วแล้วนำไปไว้ในถ้ำด้านตะวันออกของดอยที่ประทับ  ซึ่งผ้าแพรที่ขุนลั๊วอ้ายก้อมนำมารองรับพระเกศาธาตุนั้นเรียกว่า “ผ้าแฮ”  นิยมนำผ้าแฮ หรือผ้าแพรมาประดิษฐ์เป็นช่อ  หรือธง  แล้วทำการถวายสักการะเป็นพุทธบูชา  ต่อมาภายหลังเพี้ยนมาเป็น  “ช่อแฮ่”  หรือ  “ช่อแพร่”  โดยครั้งนั้นพระพุทธเจ้าทรงมีรับสั่งว่า  ต่อไปเมืองนี้จะชื่อเมืองแพร่  และหลังจากที่พระองค์ปรินิพพานแล้ว  ให้นำพระธาตุข้อศอกข้างซ้ายมาประดิษฐ์ที่นี่ด้วย  และหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว ๒๑๘ ปี  พระเจ้าอโศกมหาราชและพระอรหันต์จำนวนมากได้ร่วมกันอธิษฐานอันเชิญพระบรมสารีกริกธาตุที่ได้บรรจุในผอบแก้วที่เตรียมไว้นั้นไปสถิตในสถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงหมายไว้แต่เดิม  แล้วประกาศแก่เทวดาทั้งหลายให้พิทักษ์รักษาตลอดไป  จนกว่าจะหมดอายุแห่งพระพุทธศาสนา ๕๐๐๐ พระวัสสา

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์  ระบุว่า  ในสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท)  ครั้งทรงดำรงตำแหน่งมหาอุปราชเมืองศรีสัชชนาลัย  ได้เสด็จยกทัพแปรพระราชฐานมาทำการบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุช่อแฮเสร็จแล้ว  ทรงให้มีงานฉลองสมโภช ๗ วัน ๗ คืน  ตั้งแต่วันขึ้น ๙-๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เหนือ เดือน ๔ ใต้  และนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา  เจ้าผู้ครองนครแพร่ทุกพระองค์ก็ได้ยึดถือประเพณีไหว้พระธาตุประจำปีสืบมา

เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖  ในสมัยของเจ้าหลวงพิริยะชัยเทพวงศ์  ได้ลดการจัดงานเหลือ ๕ วัน ๕ คืน  คือวันขึ้น ๑๑-๑๕ ค่ำ เดือน๖ เหนือ เดือน ๔ ใต้ ของทุกปี  ภายในงานประกอบด้วยขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ประกอบไปด้วย  ริ้วขบวนของทุกอำเภอ  ขบวนช้างเจ้าหลวง  และเครื่องบรรณาการ  ขบวนแห่กังสดาล  ขบวนแห่หมากเป็ง  ขบวนต้นผึ้ง  ขบวนแห่ผ้าแพรคลุมองค์พระธาตุ ๑๒ สี  ซึ่งประกอบด้วยขบวน ๑๒ ราศี  ขบวนเทพีโปรยข้าวตอกดอกไม้  ต้นหมาก  ต้นผึ้ง  ด้นดอก  ขบวนตุง  ขบวนฟ้อนรำ  มีการเทศน์และฟังเทศน์มหาชาติ  มหาเวสสันดรชาดก  ทั้งกลางวันและกลางคืน  สำหรับกลางคืนมีมหรสพสมโภชตลอดงาน

ปัจจุบันประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ  เมืองแพร่แห่ตุงหลวงนอกจากจะมีขบวนแห่ที่อลังการตามแบบอย่างในอดีตแล้วภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นอีกมากมาย เช่น  กิจกรรมการสาธิตการทำตุง  โคม  เครื่องสักการะล้านนา  การประกวดหนูน้อยช่อแฮ  รวมทั้งการออกร้านและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม  ซึ่งล้วนแล้วแต่น่าสนใจและน่ามาสัมผัสความอลังการด้วยตนเองทั้งสิ้น

          –   วันเวลาการจัดงาน : วันขึ้น ๙-๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เหนือ เดือน ๔ ใต้  ซึ่งอยู่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี
          –   สถานที่จัดงาน : วัดพระธาตุช่อแฮ  ห่างจากตัวเมืองแพร่ไปตามถนนช่อแฮ  ประมาณ ๙ กิโลเมตร  (เส้นทางหลวงหมายเลข ๑๐๒๒)

ประเพณีอัฐมีบูชา




องค์พระเมรุตกแต่งประดับลวดลายวิจิตร จากช่างฝีมือท้องถิ่น ภายในประดิษฐานสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอิริยาบถไสยาสน์ เข้าสู่วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ (วันวิสาขบูชา) มีการตั้งพระบรมศพฯ ณ ศาลาการเปรียญวัดพระบรมธาตุ เริ่มต้นการบำเพ็ญกุศลตามความเชื่อทางศาสนา ตักบาตร สวดอภิธรรม และเทศนาธรรม ผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ สะท้อนภาพความร่วมมือและความสามัคคีของชาวทุ่งยั้งอย่างแท้จริง


และเมื่อถึง วันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ บรรยากาศยามค่ำคืนประมาณ ๒ ทุ่มเศษเงียบสงัด ทั้งที่ผู้คนต่างมาร่วมกันมากมาย เข้าสู่ช่วงพิธีกรรม อัฐมีบูชา พระภิกษุ สามเณร พร้อมด้วยชาวทุ่งยั้ง ต่างเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในพิธีกรรม สวมบทบาทสมมุติเล่าเรื่องราวพุทธประวัติเมื่อครั้งสมัยพุทธกาล ตั้งแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน แล้วนำมาสู่การถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้า ประกอบแสง สี เสียง อย่างสมจริง

หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีร่วมกันถวายดอกไม้จันทน์ ดอกไม้ธูปเทียน เป็นพุทธบูชา นับเป็นพิธีกรรมที่ยึดถือปฏิบัติมาช้านาน ซึ่งในปัจจุบันนั้นค่อนข้างเลือนราง ชาวทุ่งยั้งยังคงรักษาเอกลักษณ์เหล่านี้ไว้ เพื่อให้คงอยู่ แม้จะเป็นเพียงจุดเล็กๆ แต่กลับมีคุณค่า และความสำคัญไม่น้อยกว่างานเทศกาลประเพณีใดๆ

– วันเวลาการจัดงาน : ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ (วันวิสาขบูชา) ถึง แรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ รวม ๑๐ วัน
– สถานที่จัดงาน : วัดพระธาตุทุ่งยั้ง

5 ความคิดเห็น: